1 Followers
25 Following
thaibaccaratslot

thaibaccaratslot

5 เทคนิคการจัดทัพเข้าสู้ศึก ในเกมไพ่ 13 ใบ

 

“ไพ่ 13 ใบ” หรือ “ไพ่ 3 กอง” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนที่ได้เคยลองเล่นด้วยตัวเอง เพราะมันคือการชิงไหวชิงพริบ การเอาชนะกันด้วยการใช้ทักษะ ประสบการณ์ การแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าที่เรียกได้ว่าวิธีการเล่นเกมเกมนี้นั้นอาจเหนือกว่าเกมไหนๆ ที่เพื่อนๆ เคยเล่นกันมาก่อนเลยก็ว่าได้

 

และด้วยปัจจุบัน เกมไพ่ 13 ใบนั้นก็มีให้เราเล่นได้ในเว็บคาสิโนออนไลน์ ทำให้เกมเกมนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนในที่นี้จะต้องเคยมีประสบการณ์การเล่นไพ่ 13 ใบกันมาก่อนอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นแต่คิดว่าอยากจะลองเล่นนั้น เราก็ยินดีที่จะอธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจได้แบบง่ายแสนง่าย ดังนี้

 

1.ผู้เล่น 2-4 คน ได้รับไพ่คนละ 13 ใบ แบ่งออกเป็น 3 กอง จำนวนไพ่ต่อกอง 3-5-5 เรียงจากบนลงล่าง

 

2.ใช้วิธีการนับสูงต่ำของกองไพ่หลักการเดียวกันกับโป๊กเกอร์ เช่น ไพ่ตอง, เห่า, สเตรท, ฟลัช หรือโรยัลสเตรทฟลัช

 

3.เรียงจากบนลงล่าง ให้แถวบนมีค่าต่ำสุด แถวล่างมีค่าสูงสุด เช่น บนเป็นตอง แถวกลางเป็นเห่า แถวล่างเป็นรอยัลสเตรทฟลัช

 

4.เรียงเสร็จแล้วก็เปิดดูทีละแถว เทียบกับของผู้เล่นอื่น ถ้าไพ่แถวนั้นเราเหนือกว่าก็ได้รับแต้มไป ถ้าน้อยกว่าก็ติดลบ

 

5.จากนั้นรวมคะแนนทั้งหมดแล้ว คนที่มีแต้มบวกจะได้รับเงินตามแต้มที่ได้คูณกับเงินเดิมพันของโต๊ะ เช่น โต๊ะนี้เดิมพัน 100 เราได้ +20 แต้ม เท่ากับได้เงินมา 2,000 บาท (ส่วนคนที่ลบก็ต้องเสียเงินตามแต้มที่ลบคูณกับเงินเดิมพันของโต๊ะเช่นเดียวกัน)

 

ที่ว่ามานี้ก็คือกฎการเล่นไพ่ 13 ใบแบบคร่าวๆ แต่ว่าวันนี้เราจะไม่ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเล่นหรอกนะ แต่เราจะมาพูดถึงเทคนิคง่ายๆ ที่เพื่อนๆ สามารถนำไปใช้กันได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียแต้ม และทำให้มีโอกาสได้รับผลกำไรในแต่ละรอบคืนกลับมาได้อีกด้วย ซึ่งเทคนิคในวันนี้จะเป็นในส่วนของการจัดไพ่ หากเราต้องเผชิญสถานการณ์คับขัน เราควรจัดไพ่อย่างไรที่จะทำให้มีโอกาสแพ้น้อยที่สุด ทั้ง 5 เทคนิคที่นำมาก็มีตามนี้เลยจ้า


1.สู้หัว

 

สมมุติว่าทั้ง 13 ใบที่ได้มานั้นเรามีแค่ไพ่คู่อยู่ 3 คู่ และมันยังเป็นคู่ที่ต่ำเอามากๆ เช่น คู่ 3, คู่ 4 และคู่ 5 อย่างนี้เราควรจะทำอย่างไรกันดี?! ทางออกก็คือให้เราเสี่ยงวัดใจกันตรงแถวบนสุดไปเลย หรือก็คือการสู้หัวนั่นเอง นั่นคือเราก็เรียงตามเท่าที่มีน่ะแหละ คู่ 3 ไว้บน คู่ 4 ไว้กลาง คู่ 5 ไว้ล่าง จากนั้นให้เรามองหาไพ่ที่ใหญ่ที่สุดในมืออย่างไพ่ A ไปยืนอยู่กับคู่ 3 ด้านบน ซึ่งถ้าหากไพ่ของผู้เล่นอื่นแถวบนสุดนั้นไม่มีอะไรเลยแล้วต้องมาดูที่แต้มไพ่แทน ตรงนี้เราก็จะเป็นฝ่ายคว้าชัยคืนกลับมาได้สำเร็จ ลดโอกาสที่เราจะเสียแต้มไปอย่างเปล่าประโยชน์


2.สู้ท้าย

 

ถ้าเพื่อนๆ เรียงไพ่ดีๆ ได้แค่แถวเดียว การสู้ท้ายก็จะเป็นทางออกเดียวที่เราอาจเลือกได้ ณ เวลานั้น หากโชคดีว่าของเราเป็น เห่า หรือสเตรทฟลัชล่ะก็ โอกาสที่เราจะชนะในแถวสุดท้ายนั้นก็จะเป็นไปได้สูงมาก แต่ถ้าสมมุติว่าเรามีแต่เรียง แต้มน้อยๆ อย่างนั้นขอแนะนำให้เปลี่ยนวิธีและหันไปจับคู่เสี่ยงกับแถวอื่น อย่างวิธีการสู้หัวจะดีกว่านะ


3.ไพ่ 4 ล้อ

 

ไพ่ 4 ล้อหมายถึงเราได้ไพ่คู่มา 4 คู่ แต่เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะไม่ทำการสู้หัวเหมือนอย่างวิธีแรกที่พูดไป แต่วิธีการที่เราจะใช้คือการแบ่งพวกมันให้ไปอยู่ตรงแถวกลางและแถวล่าง แถวละ 2 คู่ จากนั้นให้เลือกไพ่เดี่ยวที่สูงที่สุดขึ้นไปไว้ด้านบนแทน นั่นก็เพราะว่าวิธีนี้จะทำให้เรายังมีโอกาสที่จะชนะพร้อมกันหมดทั้ง 3 แถวได้

 

 


4.ไพ่ 3 ล้อคู่ใหญ่

 

สมมุติเปิดไพ่มาเจอ คู่ J คู่ Q คู่ K บอกเลยว่างานนี้แทบไม่ต้องคิดอะไรกันเลย ย้อนกลับไปดูที่เทคนิคแรกนั่นคือการสู้หัว ทำตามนั้นซะ เพราะลองคิดดูว่าหากคู่ J ไปยืนหนึ่งอยู่บนยอดล่ะก็ โอกาสชนะของเราจะสูงมากขนาดไหน


5.A จ๋ามาจากไหน

 

อย่างที่เราเห็นจากเทคนิคสู้หัวว่า ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะนำไพ่เดี่ยวที่มีแต้มสูงอย่าง A ขึ้นไปวางไว้ด้านบนกับไพ่คู่เพื่อป้องกันการเสียแต้ม แต่ในขณะเดียวกันเราก็สามารถนำ A มาวางไว้ตรงกลางเพื่อเพิ่มโอกาสชนะของแถวนั้นแทนก็ได้ โดยการทำอย่างนี้แนะนำให้ใช้รวมกับกรณี 3 ล้อคู่ใหญ่ เพราะถ้าด้านบนเรามีคู่ J อยู่แล้ว เราไม่มีความจำเป็นต้องเอา A ไปวางตามในเมื่อโอกาสชนะมันสูงอยู่แล้ว ย้าย A มาวางกันเหนียวไว้ตรงแถวกลางจึงน่าจะเวิร์คที่สุดละ

รู้จักกับ ซิกโบ (ไฮโลแห่งศตวรรษที่ 20)

หนึ่งในการพนันที่พวกเรารู้จักหรือต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อนก็คือ “ไฮโล” เกมพนันที่ใช้เพียงแค่ลูกเต๋า ถ้วย และกระดานตัวเลขเพื่อการลงเดิมพัน สร้างความสนุกสนาน และความลุ้นระทึกได้พร้อมๆ กันเป็นวงใหญ่ โต๊ะไฮโลหลายๆ ที่ที่เราเคยเห็นไม่มีการจำกัดจำนวนคนแทง บางโต๊ะอาจมียืนแทงกัน 2-3 คน บางโต๊ะอาจแทงกันทีเป็นสิบๆ นั่นจึงทำให้มันเป็นเกมที่ถือว่าสนุกและได้รับความนิยมอย่างมากในทุกพื้นที่

 

และรูปแบบการแทงไฮโลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมันอาจเรียกได้ว่าเป็นวิธีการแทงที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือตามชื่อของมันเลย ไฮ-โล หมายความถึงการแทงสูง-ต่ำนั่นเอง โดยวิธีการแทงแบบนี้จะต้องดูจากผลรวมเลขหน้าลูกเต๋าที่ปรากฏออกมาทั้ง 3 ลูก ถ้าผลรวม 3-10 จะถือว่าเป็นต่ำ ถ้า 12-18 จะถือว่าเป็นสูง แต่ถ้าออกมาเป็น 11 เจ้ามือก็จะกินไป นอกจากนั้นแล้วมันก็ยังมีรูปแบบการแทงอีกมากมายหลายอย่างเลย

 

เราพูดถึงไฮโลกันไปเยอะแล้ว จนตอนนี้หลายคนอาจสงสัยว่าหัวข้อที่เขียนเอาไว้นั้น เรากำลังจะมาพูดถึงเกมพนันที่มีชื่อว่า “ซิกโบ” ไม่ใช่หรือ? คำตอบก็คือใช่แล้วฮะ แต่เหตุผลที่เรามีความจำเป็นจะต้องพูดถึงไฮโลก่อนก็เพราะว่า ซิกโบนั้นมีรูปแบบการเล่นที่แทบจะไม่ได้ต่างอะไรกับไฮโลเลย เพราะมันก็เปรียบเสมือนกับเป็นไฮโลแห่งศตวรรษที่ 20 หรือก็คือมันเป็น “ไฮโลออนไลน์” นั่นเอง

งั้นเราลองไปทำความรู้จักมันกันคร่าวๆ สักเล็กน้อย ไม่แน่ว่าเกมนี้อาจเป็นเกมพนันที่เพื่อนๆ กำลังตามหาอยู่ก็ได้นะ


การเปลี่ยนแปลงสู่เกมพนันในยุคดิจิตัล

 

ซิกโบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการนำเอาไฮโลที่เราเคยเล่นแถวบ้านมาปรับให้มันอยู่ในรูปแบบของเกมเกมหนึ่งในคาสิโนออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในต่างประเทศและในบ้านเรา ด้วยการใช้ลูกเต๋าด้วยกันทั้งสิ้น 3 ลูกเหมือนกับไฮโล เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีคนเขย่าเหมือนอย่างที่เราเคยเห็น แต่จะเป็นลักษณะการใช้อุปกรณ์หน้าตาคล้ายกับถ้วยใสคว่ำไว้และใช้เทคโนโลยี ทำให้มันหมุนควงกันอยู่ในนั้นด้วยตัวเอง ส่วนหนึ่งก็เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความยุติธรรมให้กับผู้เล่น

 

และอย่างที่บอกไปว่ามันคือเกมไฮโลแห่งศตวรรษที่ 20 นั่นหมายความว่าในยุคนี้เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปบ่อน ไปคาสิโนด้วยตัวเอง เพราะเพียงแค่เรานั่งอยู่บ้านหรือที่ไหนก็ตาม เข้าโลกอินเตอร์เน็ตเปิดเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ เพื่อนๆ ก็สามารถมองหาเกมซิกโบมาเล่นกันได้อย่างง่ายดายแล้ว

 



รูปแบบการแทงอันหลากหลาย

 

ก่อนจะไปพูดถึงรูปแบบการแทงในแบบอื่นๆ เราขอพูดถึงรูปแบบการแทงสูง-ต่ำของซิกโบกันก่อน เพราะว่ามันจะมีความแตกต่างกับไฮโลอยู่เล็กน้อย ป้องกันการเข้าใจผิดของหลายๆ คน โดยกระดานซิกโบส่วนใหญ่นั้น หากหน้าลูกเต๋ารวมกันได้ 4-10 จะถือว่าเป็นต่ำ ถ้ารวมกันได้ 11-17 จะถือว่าเป็นสูง แต่ถ้าออกมาเป็น 3 หรือ 18 ก็จะเท่ากับเจ้ามือชนะ เพื่อนๆ จะสังเกตเห็นได้ว่าเจ้ามือมีโอกาสที่จะชนะได้มากยิ่งขึ้น แต่มันก็เพิ่มจากเดิมมาแค่ 6.25% เท่านั้นเองล่ะนะ

 

และหากพูดว่ามันคือไฮโลออนไลน์ แน่นอนว่ามันก็จะต้องมีรูปแบบการแทงที่หลากหลายไม่แพ้กันกับไฮโลปกติอย่างแน่นอน หรือบางทีอาจเยอะกว่าที่เราเคยมาด้วยซ้ำไป ยกตัวอย่างเช่น การแทงคู่-คี่ การแทงโต๊ด การแทงโต๊ดเลขคู่ การแทงผลเลขรวม แทงเลขตอง เป็นต้น กล่าวคือเราสามารถเลือกได้เลยว่าอยากจะแทงตัวเลขอะไรยังไง และแน่นอนว่าเมื่อความน่าจะเป็นมันน้อยลง อัตราการจ่ายก็จะยิ่งเพิ่มตามขึ้นไป ถามว่าเยอะขนาดไหนก็มีตั้งแต่อัตราจ่าย 1:1 ไปจนถึง 1:150 (แทงเลขตอง ทายว่าหน้าเต๋าออก 1 1 1 , 2 2 2 , 3 3 3 , ...)


เคล็ดลับน่ารู้ก่อนการเล่นซิกโบ

 

เอาจริงๆ ถ้าเพื่อนๆ เคยเล่นไฮโลกันมาก่อน หรือบางคนอาจไม่เคยเลยก็ตาม มันก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรในการเล่นสักเท่าไหร่นัก เพราะสำหรับผู้เริ่มต้นแล้ว สิ่งที่เราจะต้องพกติดตัวไปด้วยก็คือความมั่นใจและอาจจะเริ่มจากการแทงสูง-ต่ำ หรือคู่-คี่ กันดูก่อน เพราะมันมีโอกาสชนะได้ง่ายกว่าการแทงในรูปแบบอื่นๆ ปั้นเงินทุนไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะลองไปเดิมพันในรูปแบบต่างๆ ที่เราคิดว่าน่าจะใช่ต่อไป ถ้าเริ่มจากตรงนี้ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ค่อยลองหาเวลาว่างไปศึกษาสูตรการแทงต่างๆ ในภายหลังก็ยังไม่สายเกินไป

สถิติดั้งเดิมทั้ง 3 รูปแบบ ในเกมบาคาร่า

 

เพิ่มโอกาสชนะได้ด้วยสถิติดั้งเดิมทั้ง 3 รูปแบบ ในเกมบาคาร่า

 

หากใครเป็นนักพนันที่เคยเล่นคาสิโนออนไลน์มาก่อน เชื่อว่าจะต้องรู้จักกับ “เกมไพ่บาคาร่า” กันอย่างแน่นอน เพราะมันถือว่าเป็นเกมยอดนิยมของคอพนันทั้งไทยและต่างประเทศ จึงไม่แปลกที่ทุกเว็บไซต์ ทุกผู้ให้บริการจะต้องมีเจ้าบาคาร่ามาให้เลือกเล่นกันอยู่เสมอ

 

และเมื่อมันเป็นที่ชื่นชอบหลายๆ คน มันก็นำไปสู่สูตรการอ่านไพ่ สูตรเดินเงินต่างๆ อีกมากมายที่ถูกคิดค้นมาโดย “เซียน” หรือก็คือผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับการเล่นบาคาร่าจนชำนาญ และสามารถคาดการณ์สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ (เป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ทุกครั้งนะจ๊ะ) และเพื่อนๆ ก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้สูตรต่างๆ ที่นอกจากจะมีกฎการใช้แตกต่างกันแล้ว เรายังต้องดูด้วยว่าโอกาสได้ผลกำไรและโอกาสขาดทุนของแต่ละสูตรนั้นมันมากน้อยแค่ไหน รวดเร็วทันใจหรือว่าค่อยๆ เล่นไปกินกำไรแบบช้าๆ คือเราต้องศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านั้นกันก่อนนำสูตรไปใช้ เพื่อเลือกสูตรที่มันเข้ากับการเล่นของเรามากที่สุด

 

และด้วยอะไรแบบนั้นเองที่ทำให้เพื่อนๆ บางคนอาจรู้สึกว่าการใช้สูตรที่เหล่าเซียนทั้งหลายคิดค้นมาให้นั้นมันเป็นอะไรที่ดูยุ่งยาก ซับซ้อน และถ้าจะต้องมาจำหลายๆ สูตรพร้อมกันเพื่อปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้ากับการเล่นของเราด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เพื่อนๆ บางคนยิ่งไม่อยากใช้สูตรเหล่านี้กันมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ในวันนี้ เราจึงจะมาพูดถึงวิธีการเพิ่มโอกาสชนะบาคาร่าได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องจดจำสูตรใดๆ

 

เทคนิควิธีการที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คือ วิธีการอ่านตารางสถิติแบบดั้งเดิม 3 รูปแบบ ในเกมบาคาร่า ซึ่งมันคือสิ่งที่สามารถพบได้ในการเล่นไพ่บาคาร่าผ่านระบบคาสิโนออนไลน์ เป็นตารางสถิติที่แสดงให้เห็นอยู่ด้านล่างที่เรามักจะสังเกตเห็นกันได้อยู่แล้ว แต่อาจเคยมองข้ามมันไป เพราะไม่รู้ว่ามันต้องใช้ยังไง ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความเข้าใจการอ่านตารางสถิติทั้ง 3 รูปแบบที่ว่านั้นกัน งั้นเราก็ไปเริ่มกันเลยยย


1.สถิติแบบ BT

 

ถือว่าเป็นสถิติที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุด นั่นก็เพราะตารางสถิติแบบ BT นั้นสามารถทำความเข้าใจกับมันได้ง่ายมากๆ ชนิดที่ว่าต่อให้เราเป็นมือใหม่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับบาคาร่ามาก่อน พอมาดูสถิติควบคู่กับการเปิดไพ่ในแต่ละตาแล้ว เพียงแค่ชั่วอึดใจก็สามารถเข้าใจมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ

โดยตารางสถิติแบบ BT นั้น ภายในจะถูกแบ่งให้เห็นเป็นวงกลมเล็กๆ 3 สีในแต่ละช่อง ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง ซึ่งแต่ละสีก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป สีแดงหมายถึงว่าตานั้น ฝ่ายเจ้ามือ (Banker) เป็นผู้ชนะ, สีน้ำเงินหมายความว่าตานั้น ฝ่ายผู้เล่น (Player) เป็นผู้ชนะ และสีเหลืองหมายความว่าทั้งสองเสมอกัน (Tie) ภายในวงกลมจะมีเป็นตัวเลขกำกับเอาไว้ หมายถึงว่าตานั้นแต้มที่ชนะคือเท่าไหร่ หรือเสมอกันเท่าไหร่

สำหรับตารางแบบ BT ถ้าหากว่ามีฝั่งไหนชนะติดๆ กัน วงกลมของฝั่งนั้นก็จะต่อลงไปเรื่อยๆ เช่น ฝั่งเจ้ามือ ชนะติดกัน 3 ตา เราก็จะเห็นว่ามีวงกลมสีแดงต่อลงมาเป็นแถว 3 วง และหากตาต่อไป ฝั่งผู้เล่น ชนะ เราก็จะเห็นวงกลมสีน้ำเงินถูกนำไปขึ้นบนแถวใหม่ทางด้านขวา เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ (หากเสมอก็จะมีวงกลมสีเหลืองต่อลงมาตรงแถวเดิมไปเรื่อยๆ ไม่มีการขึ้นแถวใหม่)


2.สถิติแบบ HK

 

รูปแบบตารางของสถิติ HK นั้นอาจดูต่างไปจากสถิติแบบ BT อย่างเห็นได้ชัด ทว่ามันก็ถือเป็นตารางที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายและหลายๆ คนก็ชื่นชอบเช่นเดียวกัน อาจมีต่างกันตรงที่วิธีการเรียงตัวกันของวงกลมในตารางเล็กน้อย

ตารางสถิติแบบ HK นั้นจะถูกเรียงเป็นแถวยาวลงมา 6 แถว วงกลมถูกแบ่งตามสีไม่ต่างจากสถิติแบบ BT เพียงแต่ว่าภายในวงกลมนั้นจะไม่ได้มีบอกตัวเลขแต้มที่ชนะ แต่จะถูกแทนที่ด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน วงกลมสีแดงจะเป็น B (Banker), วงกลมสีน้ำเงินจะเป็น P (Player) และวงกลมสีเหลืองจะเป็น T (Tie) นอกจากนั้นแล้วหากตาไหนมีไพ่คู่ออกมา มันก็จะมีจุดขึ้นอยู่ตรงขอบบนล่างของวงกลมในตานั้นๆ ถ้าไพ่คู่โผล่ที่ ฝั่งเจ้ามือ มันจะเป็นจุดสีแดงตรงด้านซ้ายบนของวงกลม แต่ถ้าไพ่คู่โผล่ที่ ฝั่งผู้เล่น มันก็จะมีจุดสีน้ำเงินตรงด้านขวาล่างของวงกลม

ตาราง HK นั้นจะไม่ได้เรียงลงมาเรื่อยๆ ไม่เกี่ยวว่าจะมีฝั่งไหนชนะติดกันหรือไม่ พอเรียงมาครบ 6 ตา 6 ช่องแล้ว ตาต่อไปก็จะถูกนำไปขึ้นไว้บนแถวใหม่ด้านข้างทางขวามือและลงกลับมาต่อ วนอยู่อย่างนั้น โดยลักษณะของตารางรูปแบบนี้ถูกเรียกว่าเป็นตารางแบบลูกปัด

 

3.สถิติแบบ HK2

เรียกว่าเป็นสถิติที่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำให้ใช้กันสักเท่าไหร่ เพราะนอกจากว่ามันจะเข้าใจได้ยากแล้ว ข้อมูลจากการอ่านตารางนั้นก็อาจถือว่าไม่เพียงพอต่อการคาดเดา การอ่านไพ่ สถิติรูปแบบนี้ในบางครั้งอาจทำขึ้นมาเพื่อบันทึกแค่ผลของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทำให้เราไม่รู้ผลของอีกฝั่งเลยก็มี

สำหรับสถิติแบบ HK2 นั้น จะมีวิธีการเรียงตัวของวงกลมเหมือนกับตาราง BT ต่างกันตรงที่จะมีแค่วงกลม 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงินและสีแดง เป็นวงกลมทึบ ไม่มีวงกลมที่บอกถึงผลเสมอ ไม่มีบอกไพ่คู่ใดๆ ทั้งสิ้น (จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้กันเท่าไหร่อ่ะนะ)


ทั้งหมดนี้ก็คือ 3 สถิติแบบดั้งเดิมที่สามารถหาเจอได้จากเกมบาคาร่าในคาสิโนออนไลน์

ซึ่งถามว่าการดูตารางนั้นช่วยอะไรเราได้บ้าง? แน่นอนว่ามันจะช่วยให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าจากสถิติแล้ว ตาต่อๆ ไปนั้นฝั่งไหนน่าจะเป็นผู้ชนะมากกว่ากัน เพิ่ม % การแทงได้ให้มากกว่าเสีย นอกจากนั้นแล้วหากเราสามารถเรียนรู้และเข้าใจสถิติเหล่านี้ได้อย่างแตกฉาน การทำความเข้าใจในเรื่องของสูตรอ่านไพ่ต่างๆ ก็จะยิ่งง่ายขึ้นด้วย